หมดปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ ด้วยการเลือกใช้ Skincare ให้เหมาะกับปัญหา

Last updated: 24 ก.ค. 2566  |  133 จำนวนผู้เข้าชม  | 

หมดปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ ด้วยการเลือกใช้ Skincare ให้เหมาะกับปัญหา

ผิวที่กระจ่างใส และสุขภาพดี ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับผู้หญิงหลาย ๆ คนที่มีอายุเพิ่มมากขึ้น ยิ่งประเทศไทย ปัจจัยที่ทำให้ผิวพรรณถูกทำร้ายก็มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มลพิษ ฝุ่นควัน แสงแดด และอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดปัญหาผิวเป็นสิว ผิวหมองคล้ำได้ง่าย ๆ หากคุณต้องการแก้ไขปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ สามารถทำได้ด้วยตนเอง ด้วยการเลือกใช้ Skincare ให้เหมาะกับปัญหาผิวหน้า

การดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ ด้วยขั้นตอนการดูแลผิวหน้าอย่างถูกต้อง เป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนจะต้องรู้ เพื่อนำไปใช้ในการดูแลผิวให้กระจ่างใส และสุขภาพดีอยู่เสมอ มีหลาย ๆ คนที่เจอกับปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ เพราะว่าดูแลรักษาผิวไม่ดีพอ หรือดูแลผิดวิธี ยิ่งอายุมากขึ้นการละเลยการดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ ยังจะเป็นต้นตอของปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าอีกด้วย

เคล็ดลับในการดูแลผิวหน้าให้หมดปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ ไม่ใช่เรื่องที่ยากเลย เพียงแค่จะต้องใส่ใจในการดูแลให้ดีทุกขั้นตอนตั้งแต่ การทำความสะอาดหน้า ควรเลือกใช้ Skincare ให้เหมาะกับผิวหน้า และปกป้องผิวหน้าจากแสงแดด ซึ่งทุกอย่างคุณจะต้องทำการดูแลเอาใจใส่เป็นประจำ เพื่อให้ปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ หายไปได้แบบถาวร

สำหรับการดูแลผิวหน้าที่มีปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ ด้วยการเลือกใช้ Skincare ให้เหมาะกับผิวหน้า แต่ก่อนจะไปเลือกใช้ Skincare ที่เหมาะสม จะต้องเริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดผิวให้หมดจด เตรียมพร้อมในการบำรุงผิวด้วย Skincare ให้เหมาะกับหน้าก่อน ดังนี้

วิธีการทำความสะอาดผิวให้สะอาด พร้อมรับการบำรุงเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น

ก่อนที่เราจะเข้าไป เลือกใช้ Skincare ให้เหมาะกับหน้า เพื่อแก้ไขปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ จะต้องทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจด ไม่ให้มีสิ่งสกปรกอุดตันอยู่ในรูขุมขน เพราะหากว่าผิวหน้าของเราไม่สะอาด จะทำให้ Skincare ต่าง ๆ ที่ทาลงไปไม่สามารถซึมซับเข้าผิวได้อย่างสมบูรณ์แบบ ประสิทธิภาพของ Skincare ที่จะช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส ทำงานได้ไม่เต็มที่นั้นเอง
จึงเป็นเหตุผลให้ขั้นตอนที่สำคัญมาก ๆ ในการแก้ไขปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ ด้วยการเลือกใช้ Skincare ให้เหมาะสม จะต้องทำความสะอาดผิวหน้าให้ถูกวิธี และให้สะอาดมากที่สุดก่อน ดังนี้

  • เริ่มต้นด้วยการเช็ดทำความสะอาดผิวด้วยซึ่งมีหลากหลายรูปแบบที่คุณสามารถเข้าไปเลือกใช้ให้ตรงกับผิวหน้าของคุณ (วิธีเลือกใช้ Cleansing ให้เหมาะสมกับผิว ที่คุณต้องรู้ !!) ยิ่งใครที่มีการแต่งหน้า จะต้องเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางให้หมด อาจจะต้องใช้สำลีหลายแผ่นแต่ก็ต้องทำ เพื่อให้ผิวหน้าสะอาดมากที่สุด แต่ควรจะเช็ดหน้าเบา ๆ ไม่ควรถูแรง ๆ
  • ทำความสะอาดผิวหน้าขจัดความมันส่วนเกินด้วย cleanser ไม่ว่าจะเป็น โฟมล้างหน้า เจลล้างหน้า ที่จะต้องมีความอ่อนโยนต่อผิว ไม่ควรเอามือถูหน้าแรง ๆ ไม่ควรทำเด็ดขาดในการทำความสะอาด จากนั้นล้างให้สะอาดด้วยน้ำอุณหภูมิห้อง ไม่ควรล้างด้วยน้ำอุ่น เพราะจะทำให้ผิวของคุณแห้งได้
  • ให้ใช้ โทนเนอร์ (Toner) ทำความสะอาดผิวอีกหนึ่งรอบ สำหรับ Toner เป็น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว และบำรุงผิว ที่มีสรรพคุณในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า เพื่อให้ผิวหน้าพร้อมที่จะรับการบำรุงอย่างเต็มที่ในขั้นตอนต่อไป

จริง ๆ แล้วการทำความสะอาดผิวหน้าเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนมองข้าม ทำให้การใช้ Skincare ต่าง ๆ ที่เราซื้อมาในราคาแพงไม่ได้ผลอย่างที่จะเป็น ทั้ง 3 ขั้นตอนทำความสะอาดผิวหน้าที่จะทำให้หน้าของคุณสะอาดใส ไร้สิ่งสกปรก เป็นวิธีการทำความสะอาดผิวหน้าที่สาว ๆ ที่มีผิวสุขภาพดีใช้กันทั่วโลก คุณสามารถทำตามได้ไม่ยากอีกด้วย

การเลือกใช้ เซรั่ม (Serum) หมดปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ ให้เหมาะกับหน้า

ขั้นตอนการดูแลผิวประจำวันของคุณอาจจะไม่ดีพอที่จะทำให้ผิวหน้ากลับมากระจ่างใส และมีสุขภาพดี แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าผลิตภัณฑ์ใดควรใช้เพื่อให้มีสุขภาพผิวที่ดีที่สุด ? เมื่อพูดถึงเรื่องผิวหน้าของคุณแล้ว ความต้องการการดูแลใบหน้าอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ซึ่งหมายความว่าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณอาจจะไม่เหมือนกับคนอื่น ๆ

สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจความต้องการของผิว จากนั้นสร้างกิจวัตรการดูแลผิวหน้าด้วยการเลือกใช้ เซรั่ม (Serum) ให้เหมาะกับหน้า แต่อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติโดยตรง มักจะใช้ได้ผลกับสุขภาพผิว อย่างผลิตภัณฑ์บำรุงผิวของ Biobalance ที่มีกระบวนผลิตด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย ปลอดภัยในการใช้งานอย่างแน่นอน

สำหรับวิธีการบำรุงผิวหน้าด้วย Skincare ให้เหมาะกับหน้าปัญหาผิวหมองคล้ำ ที่จะช่วยฟื้นฟูผิวหน้าให้กลับมากระจ่างใส เต่งตึง และบำรุงผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก ซึ่งเราจะแนะนำตั้งแต่ Skincare ที่ควรใช้หลังจากทำความสะอาดผิว คือ

เซรั่ม (Serum)

เป็น Skincare อันดับแรก ที่จะต้องใช้ในการบำรุงผิวหน้าหลังทำความสะอาด เซรั่ม (Serum) จะเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีความเข้มข้นจากสารสกัดต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เซรั่มจะใช้กับการแก้ปัญหาผิวต่าง ๆ ปัจจุบันมีเซรั่มที่ช่วยแก้ไขปัญหาได้ครบทุกจุด ด้วยความที่เซรั่มเป็น Skincare ที่มีส่วนผสมที่อัดแน่น และช่วยฟื้นฟูผิวแบบล้ำลึก ทำให้เป็น Skincare ที่คุณจะต้องมี เพราะจะเป็นตัวช่วยที่สำคัญมาก ๆ ในการแก้ไขปัญหา ผิวหน้าหมองคล้ำ ได้เป็นอย่างดี

สำหรับ เซรั่ม (Serum) ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ สามารถช่วยจัดการปัญหาผิวได้หลายอย่าง เช่น ริ้วรอย จุดด่างดำ และสีผิวไม่สม่ำเสมอ ผู้ที่เผชิญกับความกังวลหลายประการสามารถเลือกใช้เซรั่มที่แตกต่างกันได้ ซึ่งจะช่วยปกป้องผิวของคุณจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ และลดสัญญาณแห่งวัย เพื่อส่งมอบส่วนผสมที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เข้มข้นเข้าสู่ผิวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เซรั่ม (Serum) ที่เหมาะกับผิวหน้าทุกสภาพผิวทุกแบบ จะต้องเป็น เซรั่ม ที่สกัดมาจากธรรมชาติอย่างเซรั่มของ Biobalance มีให้คุณได้เลือกเพื่อฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก คือ PURE VITAMIN C L ASCORBIC ACID 10% SUPER SERUM และ PURE RETINOL 0.3% + VITAMIN E 2% SUPER SERUM ทั้งสอง ตัวจะช่วยในการแก้ไขปัญหาที่ต่างกันดังนี้

PURE VITAMIN C L ASCORBIC ACID 10% SUPER SERUM

เซรั่มที่ผู้หญิงไทยหลาย ๆ คนชื่นชอบ ด้วยส่วนผสมของ Vitamin C บริสุทธิ์ที่ทรงประสิทธิภาพ มีสารต้านอนุมูลอิสระชั้นยอดจากธรรมชาติ ทำให้ใครที่มีปัญหาของรอยดำ รอยแดง ผิวหน้าหมองคล้ำ จะทำให้กลับมาขาวกระจ่างใสได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังต่อต้านริ้วรอย พร้อมกับกระตุ้นคอลลาเจน เผยผิวขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ เพิ่มความกระจ่างใสเปล่งประกายให้ผิวดูสุขภาพดี เพียงแค่หยดเซรั่มลงฝ่ามือหรือผิวหน้าแล้วทาให้ทั่วทั้งใบหน้า หลังจากทำความสะอาดทุกวันเป็นประจำ ก็จะทำให้ผิวกลับมากระจ่างใส่อย่างแน่นอน

จุดเด่นของ PURE VITAMIN C L ASCORBIC ACID 10% SUPER SERUM คือ วิตามินซี ที่ช่วยลบเลือนรอยดำหรือจุดด่างดำ ทำให้ผิวของคุณดูมีสีผิวสม่ำเสมอขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่แข็งแกร่งซึ่งสามารถช่วยป้องกันและแก้ไขความเสียหายจากอนุมูลอิสระที่ทำลายคอลลาเจนอีกด้วย

PURE RETINOL 0.3% + VITAMIN E 2% SUPER SERUM

เหมาะสำหรับผิวหน้าของผู้หญิงที่มีอายุมากขึ้น และมีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ตัวนี้จะช่วยยกกระชับผิว ผลัดเซลล์ผิว ให้มีความขาวกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น ด้วยพลังของ Retinol + Vitamin E จะทำให้ผิวหน้าเกิดความกระชับ พร้อมกับพลัดเซลล์ผิว ลดเลือนริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามวัย ช่วยป้องกันริ้วรอยร่องลึกที่จะเกิดขึ้น PURE RETINOL 0.3% + VITAMIN E 2% SUPER SERUM มีคุณสมบัติการผลัดเซลล์ผิวที่ตาย อย่างอ่อนโยน ทำให้ปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำหมดไปอย่างแน่นอน

นี่คือเซรั่มที่เราอยากจะแนะนำให้กับทุกคนที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ เพื่อใช้ในการฟื้นฟูผิวด้วยเซรั่ม โดยใช้สูตรที่อ่อนโยน ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติและนวัตกรรมที่ทันสมัยในการผลิต ทำให้ผู้ที่ได้ใช้เกิดความพึงพอใจสูงที่สุด และได้ผลลัพธ์ที่เป็นจริง ทั้งสองสูตรนี้ PURE VITAMIN C L ASCORBIC ACID 10% SUPER SERUM และ PURE RETINOL 0.3% + VITAMIN E 2% SUPER SERUM เป็นเซรั่มที่สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ตอบสนองความต้องการของการดูแลผิวหน้าอย่างล้ำลึกแน่นอน

คำถามในการใช้เซรั่ม

สามารถใช้เซรั่มบำรุงผิวหน้าทุกวันได้หรือไม่ ?

เซรั่มจะมีส่วนผสมที่ออกฤทธิ์เข้มข้นกว่ามากในการบำรุงผิวและฟื้นฟูผิว เมื่อเทียบกับมอยเจอร์ไรเซอร์ อย่างไรก็ตาม หากคุณสงสัยว่า “เราควรใช้เซรั่มบำรุงผิวหน้าทุกวันหรือไม่ ” บอกเลยว่าควรใช้ เพราะ เซรั่มมีความปลอดภัยและเป็นสารสกัดเข้มข้นจากธรรมชาติที่เราสามารถจะใช้ได้ทุกวัน ในความเป็นจริง ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังแนะนำให้ใช้เซรั่มทุกวันทั้งเช้า และก่อนนอน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

เราควรใช้เซรั่มก่อนหรือหลังมอยส์เจอไรเซอร์ ?

อย่างที่ได้บอกไป เซรั่ม เป็น Skincare บำรุงผิวที่มีความเข้มข้นสูง และซึมซับเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องใช้ในขั้นตอนแรกของขั้นตอนการบำรุงผิว หากทาเซรั่มลงสู่ผิวหน้าแล้ว ให้รอเนื้อเซรั่มซึมเข้าสู่ผิวให้แห้งก่อน แล้วค่อยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ การทามอยส์เจอไรเซอร์เป็นขั้นตอนท้าย ๆ ในการบำรุงผิว แล้วค่อยทาครีมกันแดดปิดท้าย (สำหรับกลางวัน)

ควรทิ้งระยะในการทาเซรั่มไว้บนใบหน้านานแค่ไหน ?

สำหรับการทาเซรั่มทั่วไปหน้าแล้วจะต้องรอนานแค่ไหนเพื่อที่จะลง Skincare ตัวอื่น ๆ บอกเลยว่า วิธีการใช้เซรั่มบำรุงผิวหน้าอย่างถูกต้อง ขั้นแรก ต้องทำความสะอาดและขจัดสิ่งสกปรกออกไปให้หมดก่อน จากนั้นค่อย ๆ ทาเซรั่มปริมาณเล็กน้อยลงบนใบหน้าและลำคอด้วยปลายนิ้ว หรือฝ่ามือ จากนั้นรอ 5 นาทีเพื่อให้เซรั่มซึมเข้าสู่ผิวอย่างเต็มที่ แล้วค่อยบำรุงด้วย Skincare ตัวอื่น ๆ

สามารถข้ามครีมบำรุงผิวต่าง ๆ และใช้ครีมกันแดดหลังจากเซรั่มได้หรือไม่ ?

จริง ๆ แล้วสามารถทำได้ คุณไม่จำเป็นต้องทามอยส์เจอไรเซอร์ก่อนทาครีมกันแดด ถ้าคุณเป็นคนที่มีผิวสุขภาพดี และผิวไม่แห้ง ก็สามารถใช้ครีมกันแดดได้เลย อย่างไรก็ตาม คุณควรใส่ใจเรื่องสุขภาพผิวให้มาก ๆ เพราะในช่วงวัยที่เพิ่มขึ้นปัญหาผิวก็จะตามมาเยอะมาก ๆ หากเราบำรุงให้ผิวของเรามีความชุ่มชื้นสุขภาพดีอยู่เสมอ ใช้ทั้งเซรั่ม มอยส์เจอไรเซอร์ และครีมกันแดด ในกิจวัตรการดูแลผิว เป็นประจำทุกวัน จะทำให้ผิวหน้าของเราแข็งแรง และลดการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นอีกด้วย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้