วิธีเลือกใช้ Cleansing ให้เหมาะสมกับผิว ที่คุณต้องรู้ !!

Last updated: 24 ก.ค. 2566  |  145 จำนวนผู้เข้าชม  | 

วิธีเลือกใช้ Cleansing ให้เหมาะสมกับผิว ที่คุณต้องรู้ !!

ผิวหน้าสกปรกเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาผิวหน้าทุกอย่าง โดยเฉพาะ ปัญหาสิว ผิวหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง เพราะความสกปรกเหล่านั้นจะเข้าไปทำลายผิวของคุณทำให้ผิวหน้าของคุณอ่อนแอ และสิ่งสกปรกก็จะเข้าไปอุดตันในรูขุมขนเกิดเป็นสิวทุกประเภทบนหน้าของคุณ ทำให้เรื่องของการทำให้ผิวหน้าสะอาดจึงสำคัญมาก ๆ สำหรับทุกคน

ในการดูแลรักษาผิวหน้าให้สะอาดไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่หลาย ๆ คนมีวิธีการดูแลทำความสะอาดผิวหน้าที่ผิดวิธี ทำให้สิ่งสกปรกยังคงอยู่บนผิวหน้าของคุณ ถึงแม้ว่าคุณจะล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้ากี่รอบก็ตาม เพราะการล้างหน้าด้วยโฟม หรือสบู่ เพียงอย่างเดียว ไม่ช่วยทำให้ผิวหน้าของคุณสะอาดหมดจดได้อย่างแน่นอน

แต่สิ่งที่จะช่วยให้สิ่งสกปรกบนผิวหน้าหายไป คือ การทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึกมากยิ่งขึ้นด้วย Cleansing ซึ่งจะเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดในการทำความสะอาดผิวให้สะอาดมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม โดยเฉพาะสาว ๆ ที่แต่งหน้าเป็นประจำ การใช้ Cleansing เช็ดทำความสะอาดก่อนที่จะล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จะช่วยทำให้สิ่งสกปรกที่ฝังแน่น ถูกกำจัดออกไปได้ง่ายยิ่งขึ้น

ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ Cleansing มีให้เลือกใช้งานหลากหลายประเภทมาก ๆ ทั้งแบบ Cleansing water , Cleansing oil , Cleansing balm และอื่น ๆ ซึ่งคุณจะต้องเลือก Cleanser ให้เข้ากับผิวของคุณ เพื่อให้การทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เกิดการแพ้หรือระคายเคืองด้วย

ผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทำให้วิธีเลือกใช้ Cleansing ให้เหมาะสมกับผิว จึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมาก ๆ ไม่แพ้การเลือกใช้ Skincare เลยก็ว่าได้ วันนี้ทาง Biobalance Thailand จะมาแนะนำการเลือกใช้ Cleansing ให้เหมาะสมกับผิวของทุก ๆ คน เพื่อให้ผลลัพธ์ของการทำความสะอาดมีประสิทธิภาพ และไม่ทำให้ผิวถูกทำลายมากที่สุด

การเลือกใช้ Cleansing สำหรับผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม

ก่อนอื่นเราจะต้องเข้าทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ผิวหน้าแต่ละแบบกันก็ เพื่อให้คุณสามารถวิเคราะห์ผิวหน้าของตนเองให้ได้ว่า อยู่ในผิวหน้าแบบไหน ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 ประเภทด้วยกัน คือ ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม โดยทั้งสามลักษณ์ผิวจะมีวิธีการดูดังนี้….

  • ผิวธรรมดา(Normal skin) ซึ่งจะเป็นที่มีความสมดุล คือไม่แห้งจนเกินไป และ ไม่มันจนเกินไป ผู้เชี่ยวชาญทางผิวหนัง และแพทย์ผิวหนังมักจะเรียกว่า “eudermic” แทนผิวที่มีสุขภาพดี สังเกตได้จาก มีรูขุมขนขนาดเล็ก มีการไหลเวียนโลหิตที่ดี ผิวนุ่มและเรียบเนียน ผิวมีความสดชื่น สีอมชมพู ไม่หมองคล้ำ และปราศจากสิว
  • ผิวแห้ง (Dry skin) จะมีสภาพของผิวที่ขาดกรดไขมันที่จำเป็นในการรักษาความชุ่มชื้น ทำให้เกิดความมันน้อยกว่าผิวธรรมดา และไม่มีเกราะป้องกันผิวจากสิ่งกระทบจากภายนอก สังเกตได้จาก เกิดความหยาบกร้าน มีรอยแตกของผิวปรากฎชัดเจน ผิวหนังด้าน ผิวลอกเป็นขุย และมีอาการคันบ่อย
  • ผิวมัน (Oily skin) โดยร่างกายจะผลิตความมันในปริมาณที่มากเกินไปในบริเวณผิวหน้า ถึงสามารถดูออกได้ง่ายมาก ๆ จะมีลักษณะ เงา มัน และสามารถมองเห็นรูขุมขนได้ชัดเจน ผิวดูหนา อาจมองเห็นเส้นเลือดไม่ชัดเจน
  • ผิวผสม (Combination Skin) ซึ่งพบมากในคนไทย โดยจะมีลักษณะของผิวทุกแบบรวมกัน เกิดขึ้นได้ทั้ง ผิวแห้ง และ ผิวมัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นผลมาจากการใช้ Skincare ที่ไม่ตรงกับผิว จากสังเกตได้จาก มันบริเวณทีโซน (หน้าผากคางและจมูก) รูขุมขนขยายใหญ่ขึ้นในบริเวณนี้อาจจะมีสิ่งสกปรกอุดตัน ปกติบริเวณแก้มจะแห้ง

หากคุณรู้แล้วว่าผิวหน้าของคุณเป็นผิวหน้าในลักษณ์ไหน โดยสามารถวิเคราะห์ผิวหน้าของตนเองได้ง่าย ๆ จากข้อมูลที่เราบอกไปเลย การรู้ว่าผิวหน้าของเราเป็นผิวแบบไหน จะทำให้เราสามารถเลือกใช้ Skincare และ Cleansing ได้อย่างถูกต้อง เพื่อทำให้ผิวของเราสะอาด แข็งแรง ลดปัญหาสิว ผิวหมองคล้ำ และริ้วรอยต่าง ๆ ได้อีกด้วย

ประเภทของ Cleansing ที่มีให้เลือกใช้ในปัจจุบัน ที่เหมาะกับผิวหน้าแต่ละแบบ

หากรู้แล้วว่าผิวหน้าของคุณอยู่ในประเภทไหน ก็มาถึงขั้นตอนของการเลือกใช้ Cleansing ให้เหมาะสมกับผิว ในปัจจุบันเราจะเห็น Cleansing ในรูปแบบต่าง ๆ มากมายหลายรูปแบบ แต่วันนี้เราก็แบ่ง Cleansing ออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ ๆ คือ Cleansing Water , Cleansing Oil , Cleansing Cream และ Cleansing Balm โดยแต่ละแบบจะมีลักษณะในการใช้งาน และเหมาะกับผิวหน้าแต่ละแบบ ดังต่อไปนี้

Cleansing Water (ชนิดน้ำ)

Cleansing Water จะเป็นคลีนซิ่งแบบน้ำ โดยจะเห็นเป็นน้ำใส ๆ เหมือนกับน้ำเปล่า ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันอยู่ โดยจะเขียนติดผลิตภัณฑ์ Cleansing ว่า Oil-Free สามารถทำความสะอาดเครื่องสำอาง และสิ่งสกปรกได้เป็นอย่างดี โดยวิธีการใช้ Cleansing Water จะต้องมีแผ่นสำลีในการช่วยเช็ดทำความสะอาดผิวหน้า โดยจะต้องเท Cleansing Water ลงไปในแผนสำลีสำหรับเช็ดทำความสะอาดในปริมาณพอสมควร แล้วค่อย ๆ เช็ดไปที่บริการผิวหน้า

สำหรับ Cleansing Water เหมาะสำหรับคนที่มี ผิวมัน ผิวธรรมดา และผิวผสม สามารถใช้ Cleansing แบบน้ำได้

Cleansing Oil (ชนิดน้ำมัน)

Cleansing Oil เป็นหนึ่งในตัวเลือกในการทำความสะอาดผิวหน้าที่สามารถกำจัดสิ่งสกปรกได้เป็นอย่างดี และช่วยลบเครื่องสำอางที่ติดทนออกจากใบหน้าได้อย่างง่ายได้ คลีนซิ่งชนิด Oil จะมีส่วนผสมน้ำมันบวกกับสารอื่น ๆ ที่ใช้ในการทำความสะอาดเครื่องสำอาง ถือเป็นอีกหนึ่งไอเท็มของการทำความสะอาดผิวหน้า ที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ใช้งานง่าย เพียงแค่ชโลม Cleansing Oil ให้ทั่วหน้าใน แล้วลูบไล้เพื่อขัดสิ่งสกปรก และเครื่องสำอางออกไปให้หมด จากนั้นใช้สำลีเช็ดออก

แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เป็น Cleansing Oil มีส่วนผสมของน้ำมัน ทำให้เราจะต้องล้างหน้าต่อด้วย Cleanser ทันที ไม่ว่าจะเป็น โฟมล้างหน้า เจลล้างหน้า หรือสบู่ล้างหน้า ทันที เพื่อกำจัดความมันของน้ำมัน และสิ่งสกปรกออกไปให้หมดอีกครั้ง

สำหรับ Cleansing Oil สำหรับคนที่มีผิวหน้าแห้ง หรือคนที่แต่งหน้าแน่น ๆ หนัก ๆ การใช้ Cleansing Oil จะเอาอยู่มากที่สุด แต่ด้วยความมันของ Oil จะต้องรีบล้างหน้าเพื่อไม่ให้เกิดความเหนอะหนะ

Cleansing Cream (ชนิดครีม)

Cleansing Cream ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ที่มาในรูปแบบของครีม สามารถทำความสะอาดคราบเครื่องสำอาง เมกอัพ ครีมกันแดด และสิ่งสกปรกอื่น ๆ ได้อย่างดี ลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์จะเหมือนกับครีมบำรุงผิวทั่วไป โดยปกติกลุ่มนี้จะมีส่วนผสมของ Mineral Oil, Beeswax เป็นหลัก โดยวิธีการใช้งานจะเหมือนกับ Cleansing Oil ต้องใช้การนวด ลูบไล้ทั่วใบหน้า เพื่อให้คราบเครื่องสำอางหลุดออก

สำหรับ Cleansing Cream เหมาะสำหรับผิวธรรมดา ถึง แห้งมาก แต่ขอแนะนำให้ใช้เฉพาะวันที่แต่งหน้าจัด ๆ หรือเจอกับสิ่งสกปรกมาก ๆ จะดีที่สุด

Cleansing Balm (บาล์ม)

Cleansing Balm เป็น Cleansing อีกหนึ่งรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ด้วยความที่มีลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ที่เก็บรักษาง่าย พกพาไปได้อย่างสะดวก ไม่ต้องกลัวหกเลอะเทอะ จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของสาว ๆ ยุคใหม่ Cleansing Balm ยังสามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึกไม่แพ้ Cleansing แบบอื่น ๆ ตัวช่วยทำความสะอาดผิวได้เกลี้ยง โดยไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งตึง อีกทั้งยังสามารถบำรุงผิวไปด้วยในตัว

วิธีการใช้เราสามารถสัมผัสเนียนนุ่มของเนื้อบาล์มขึ้นมาสู่ผิวหน้าของเราโดยตรงได้เลย เมื่อคลีนซิ่งบาล์มเริ่มละลาย ให้นวดทำความสะอาดลงบนผิวเบา ๆ เพื่อสลายเมกอัพและสิ่งสกปรก แล้วใช้สำลีเช็ดเนื้อบาล์มที่ได้ละลายเมกอัพ และสิ่งสกปรกก่อน จึงจะค่อย double cleanse ด้วย Cleanser ล้างหน้าอีกรอบให้สะอาดหมดจด พร้อมที่จะบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไป เหมาะสำหรับผิวหน้าทุกประเภทสามารถใช้ Cleansing Balm ได้โดยไม่เกิดผลเสียตามมาอย่างแน่นอน และสามารถใช้ทำความสะอาดผิวหน้าตั้งแต่เล็กน้อย ถึงสกปรกมากได้ทุกวัน

สำหรับ Cleansing Balm ที่จะช่วยล้างเครื่องสำอางได้อย่างล้ำลึก และอ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิว เราขอแนะนำ HELLO CLEAN BRIGHTENING CLEANSING BALM WITH VITAMIN C หนึ่งใน Cleansing Balm ที่ให้ความรู้สึกนุ่มละมุนทุกขณะการล้างหน้า พัฒนาขึ้นเพื่อล้างเครื่องสำอางอย่างล้ำลึก ช่วยในการกำจัดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ทั้งเครื่องสำอางกันน้ำ ครีมกันแดด

ด้วยเทคโนโลยีของ Hello Clean ทาง Biobalance พัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ปลอดภัย ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน โดย Balm จะไม่ทำให้ผิวแห้งตึง และยังคงความชุ่มชื่นหลังล้างหน้าได้เป็นอย่างดี ยังมี Antioxidant vitamin C เพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวหน้า และต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวหน้าแข็งแรง พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ทาง Biobalance ใช้ส่วนผสมต่าง ๆ จากธรรมชาติและนวัตกรรมที่ทันสมัย เพื่อให้เหมาะสมกับผิวหน้าในทุกรูปแบบ BRIGHTENING CLEANSING BALM จะมีไม้พายตักเนื้อ Balm มาให้ คุณสามารถใช้ไม้เพื่อตัก แล้วปาดไปที่นิ้วมือในปริมาณที่ต้องการได้เลย จากนั้น นวดวนเบา ๆ ที่ผิวหน้าด้วยปลายนิ้วจนเครื่องสำอางและสิ่งตกค้างออกจนหมด จากนั้นพรมน้ำที่มือแล้วนวดอีกครั้งจะทำให้ผิวหน้าผ่อนคลาย หลังจากนั้นล้างออกด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำอุ่นให้สะอาด

บทสรุป

วิธีเลือกใช้ Cleansing ให้เหมาะสมกับผิว ที่เราได้แนะนำไปทั้งหมด จะเป็นเหมือนตัวช่วยที่ทำให้คุณรู้ว่า ผิวหน้าในแต่ละแบบ จะต้องเลือกใช้ Cleansing แบบไหน เพื่อทำให้การทำความสะอาดหน้ามีประสิทธิภาพสูงสุด และยังเป็นการดูแลผิวหน้าไม่ให้เกิดปัญหาตามมา อย่างเช่น เกิดการแพ้ เกิดสิว ทำให้หน้าแห้งหรือหน้ามันยิ่งกว่าเดิม

การทำความสะอาดผิวหน้ามีความสำคัญมาก ๆ ยิ่งเราทำความสะอาดหน้าได้อย่างล้ำลึกมากเท่านั้น ในการบำรุงผิวหลังจากทำความสะอาดเรียบร้อย ยิ่งจะทำให้การบำรุงต่าง ๆ ซึมเข้าผิวได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ทุกคนจะต้องใส่ใจในการทำความสะอาดผิวให้ดี

ซึ่งขั้นตอนการทำความสะอาดผิวจะมีด้วยกันอยู่ 3 ขั้นตอนหลัก ๆ คือ เช็ดทำความสะอาดผิวหน้าด้วย Cleansing ล้างด้วย Cleanser และตามด้วยเช็ดด้วย Toner เป็นลำดับสุดท้าย เพื่อไปสู่ขั้นตอนของการบำรุงผิวต่อไป

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้